หอการค้าไทย บริษัทเกษตรสนองแผ่นดินจำกัดและสำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวร่วมกันผลักดัน“โครงการทำนา 1ไร่ได้เงิน 1 แสน”ขึ้นมาโดยใช้พื้นที่ของพิพิธภัณฑ์การเกษตรฯในการสร้าง “โมเดลต้นแบบ” เปิดกว้างให้เกษตรกรทั้งที่เป็นชาวนาและเกษตรกรทั่วไป หรือแม้กระทั่งประชาชนทั่วไปได้เข้ามาเรียนรู้ ศึกษาวิธีการ “ทำนาประยุกต์” ภายใต้หลักสูตรอบรม “ทำนา1 ไร่ได้เงิน 1แสน” ไปเพิ่มพูนรายได้และยกระดับชีวิตในครัวเรือนให้ดีขึ้น

นายอดิศร กล่าวด้วยว่าการทำนา 1 ไร่ได้เงิน 1 แสน ไม่สอนให้ทำอะไรแบบแยกส่วน ทุกอย่างต้องรวมเป็นหนึ่งจึงจะเกิดพลัง ไม่ว่าจะเป็นเวลา แรงงาน ความคิด ไปจนถึงสังคม เป็นการทำการเกษตรที่สอนให้ใช้ที่ดินและคูน้ำทุกตารางนิ้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด สอนให้จัดระบบการใช้พื้นที่และทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีเหตุผล สอนให้เห็นคุณค่าของทรัพยากรที่อยู่รอบตัวและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ สอนให้สร้างสิ่งหนึ่งเพื่อให้มีสิ่งหนึ่งและไม่ให้มีอีกสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นมา เช่น สร้างให้เกิดแพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ สร้างวงจรสิ่งมีชีวิตในน้ำให้มีแมลงปอมาหากินและวางไข่ลงในน้ำ ทำให้มีไส้เดือน ให้มีแมลงตัวห้ำแมลงตัวเบียน ให้มีแมงมุมมาชักใยจะได้ไม่มีศัตรูข้าวที่จะมาวางไข่หรือกัดกินต้นข้าว เป็นระบบนิเวศที่มีการพึ่งพากันอย่างเป็นระบบ และที่โดนใจเกษตรกรส่วนใหญ่ก็คือ ไม่ต้องใช้เงินซื้อสารเคมีกำจัดวัชพืช ไม่ต้องสิ้นเปลืองไปกับการซื้อปุ๋ยเคมี หรือใช้ยาฆ่าแมลงมาทำร้ายทั้งเงินในกระเป๋าและกัดกร่อนสุขภาพตัวเอง ลดต้นทุนลงมากแต่ผลผลิตกลับงอกงามดีกว่าเดิมมากไปกว่านั้นรูปแบบแปลงนาแบบนี้ยังไปโดนใจคนที่ชีวิตติดกับดักอยู่ในสังคมเมืองที่เคยฝันหรือตั้งใจจะผันตัวเองกลับไปสู่วิถีเกษตรกร เพราะรูปแบบแปลงนาแบบนี้ถูกจริตและตอบโจทย์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี กล่าวคือเป็นแปลงนาที่มีทั้งการปลูกข้าวที่มีสรรพคุณเป็นยา เลี้ยงสัตว์น้ำ ปลูกพืชผักปลอดสารพิษ ทั้งหมดอยู่ในขอบเขตเดียวกัน สามารถปลูกกระท่อมนอนในแปลงนาโดยไม่ต้องกลัวผลกระทบจากสารพิษ หาความสุขในแปลงนา ครอบครัวอบอุ่น มีกิจกรรมร่วมกัน ทำให้กลายเป็นรูปแบบแปลงนาที่ไม่ใช่เพียงแค่เกษตรกรเท่านั้นที่สนใจ มีทั้งคนที่อิ่มตัวกับชีวิตในเมือง คนที่แสวงหารูปแบบชีวิตที่ยั่งยืน คนที่เริ่มสร้างชีวิตและแสวงหาความสมบูรณ์ให้กับครอบครัว คนที่กำลังคิดจะเกษียณจากงานก่อนเวลา และคนที่หาสิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำหลังเกษียณ
ดังนั้น ระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม จึงจะมีการอบรมหลักสูตรระยะสั้น3 วัน 2 คืนจำกัดเพียง 100 คนเท่านั้นผู้สนใจสมัครเข้าอบรมหลักสูตรดังกล่าว สามารถไปสอบถามรายละเอียดและสมัครด้วยตัวเองได้ที่ สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หรือโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-5292212-13, 0-2529-1972, 0-2529-2213 ต่อ 103, 081-975-1596 หรือเข้าไปดาวน์โหลดใบสมัครและสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.wisdomking.or.th.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น